วิธีปรับแต่ง Expert Advisors (EAs) ใน MetaTrader 5 (MT5)

1.วิธีปรับแต่ง Expert Advisors (EAs) ใน MetaTrader 5 (MT5)
2.การเตรียมความพร้อมก่อนการปรับแต่ง
3. การใช้เครื่องมือ Strategy Tester ใน MT5
4. การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการปรับแต่ง
5. เทรดกับ Ultima Markets

วิธีปรับแต่ง Expert Advisors (EAs) ใน MetaTrader 5 (MT5)

Expert Advisor (EA) คือระบบการเทรดอัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการซื้อขายตามกฎที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า EA ทำงานบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 (MT5) โดยไม่ต้องอาศัยการเทรดแบบแมนนวล โดยจะวิเคราะห์สภาพตลาดและส่งคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติ

เทรดเดอร์ใช้งาน EA เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความมีวินัยในกลยุทธ์การเทรดของตนเอง

ความสำคัญของการปรับแต่ง EA ในการเทรดอัตโนมัติ

แม้ว่า EA จะสามารถดำเนินการเทรดได้ดี แต่ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าที่เหมาะสม เนื่องจากสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา EA ที่เคยใช้งานได้ดีในอดีต อาจไม่สามารถสร้างกำไรได้ในปัจจุบัน

การปรับแต่ง (Optimisation) คือกระบวนการปรับพารามิเตอร์ของ EA เพื่อให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป ช่วยเพิ่มความเสถียรและกำไร

หากไม่มีการปรับแต่ง EA อาจเผชิญกับปัญหาเหล่านี้:

  • ทำงานได้ดีแค่บางสภาวะตลาด แต่ล้มเหลวในเงื่อนไขอื่น
  • มีการ Overfit กับข้อมูลในอดีต ทำให้ใช้งานจริงไม่ได้ผล
  • ควบคุมความเสี่ยงได้ไม่ดีเนื่องจากพารามิเตอร์ไม่เหมาะสม

ภาพรวมของ MT5 Strategy Tester

MT5 มาพร้อมกับเครื่องมือ Strategy Tester ที่ทรงพลังสำหรับการทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่ง EA ซึ่งสามารถจำลองการซื้อขายย้อนหลังตามข้อมูลตลาดจริงได้

ฟีเจอร์หลัก:

  • Backtesting: ทดสอบ EA กับข้อมูลในอดีตเพื่อวัดประสิทธิภาพ
  • Optimisation: หาเซ็ตค่าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มกำไร
  • Multi-threaded Processing: ใช้หลายคอร์ CPU เพื่อเพิ่มความเร็วในการทดสอบ
  • Genetic Algorithm: คัดเลือกพารามิเตอร์ที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องลองทุกค่าที่เป็นไปได้
  • Forward Testing: ทดสอบค่าที่ปรับแต่งในสภาวะตลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของการปรับแต่ง EA และการทำงานของเครื่องมือ MT5 Strategy Tester แล้ว เทรดเดอร์ก็จะสามารถปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติของตนเองได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม

ความหมายของ “การปรับแต่ง” ใน MT5

การปรับแต่ง (Optimisation) ใน MT5 หมายถึงการปรับค่าพารามิเตอร์ของ Expert Advisor (EA) อย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาการตั้งค่าที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไร ลดการขาดทุนสะสม (Drawdown) และเพิ่มความสม่ำเสมอในการเทรด

เครื่องมือ MT5 Strategy Tester ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรันการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ได้หลายครั้ง โดยใช้ชุดค่าพารามิเตอร์ที่แตกต่างกัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ EA ภายใต้เงื่อนไขของตลาดในอดีต ซึ่งช่วยให้สามารถค้นหาค่าที่เหมาะสมที่สุดที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการเทรด

แม้ว่าการทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งจะมีความสำคัญต่อการพัฒนา EA ทั้งคู่ แต่ก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน:

ฟีเจอร์ การทดสอบย้อนหลัง การปรับแต่ง
วัตถุประสงค์ ทดสอบประสิทธิภาพ EA จากค่าที่ตั้งไว้ หาค่าที่เหมาะสมที่สุดจากหลายๆ พารามิเตอร์
ลักษณะการทำงาน รันแค่ครั้งเดียว รันหลายค่าพร้อมกัน
เวลา เร็วกว่า ช้ากว่า (ขึ้นอยู่กับขนาดข้อมูล)
ผลลัพธ์ รายงานประสิทธิภาพ ค่าที่เหมาะสมที่สุดตามเกณฑ์ที่กำหนด

ประโยชน์ของการปรับแต่ง EA

การปรับแต่ง (Optimising) EA ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด และทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่หลากหลายได้ โดยมีประโยชน์หลักๆ ดังนี้:

  • เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: เทรดเดอร์สามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของ EA ได้ โดยการปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น ขนาดล็อต, จุดตัดขาดทุนและจุดทำกำไร
  • การบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น: การปรับแต่งช่วยให้สามารถตั้งค่าความเสี่ยงได้เหมาะสม ลดการขาดทุนสะสม และปกป้องเงินทุน
  • ปรับตัวตามสภาวะตลาด: ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ EA ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมจะสามารถรับมือกับความผันผวน แนวโน้ม และพฤติกรรมของราคาที่เปลี่ยนไปได้
  • ความเร็วในการดำเนินคำสั่งที่ดีขึ้น: การตั้งค่าที่มีประสิทธิภาพช่วยลดความล่าช้าในการส่งคำสั่ง และลดโอกาสการลื่นไถลของราคา
  • ป้องกันการปรับแต่งมากเกินไป: การปรับแต่งที่ดีจะช่วยให้ EA ทำผลงานได้ดีทั้งในข้อมูลย้อนหลังและตลาดจริงในอนาคต ไม่ใช่แค่เก่งเฉพาะกับข้อมูลในอดีตเท่านั้น

การเตรียมความพร้อมก่อนการปรับแต่ง

การเตรียมความพร้อมอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญก่อนเริ่มกระบวนการปรับแต่ง (Optimisation) บน MetaTrader 5 (MT5) เพราะการตั้งค่าที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปอย่างเช่นการปรับแต่งเกินจริง (Overfitting) เทรดเดอร์ควรเลือก EA ที่เหมาะสม จัดเตรียมข้อมูลราคาย้อนหลังให้พร้อม เลือกคู่สกุลเงินและช่วงเวลา (Timeframe) ที่ดีที่สุด รวมถึงกำหนดพารามิเตอร์ของ EA สำหรับการปรับแต่งอย่างมีระบบ

การเลือก EA ที่เหมาะสม

ไม่ได้มี Expert Advisor (EA) ทุกตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อการปรับแต่ง (Optimisation) โดยเฉพาะ บางตัวอาจมีพารามิเตอร์ที่ถูกตั้งค่าแบบถาวร (Hard-coded) ซึ่งไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ขณะที่บางตัวอาจต้องใส่ข้อมูลบางอย่างด้วยตนเองในบางเงื่อนไข ก่อนจะเริ่มทำการปรับแต่ง คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า:

  • EA รองรับการปรับแต่งพารามิเตอร์ได้
  • มีการตั้งค่า Stop-loss, Take-profit, ขนาดล็อต และเงื่อนไขกลยุทธ์ที่สามารถปรับได้
  • ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในหลายสภาวะตลาด ไม่ใช่แค่ในสถานการณ์เดียว
  • รองรับการทดสอบย้อนหลังและการปรับแต่งพารามิเตอร์

หาก EA ไม่มีความยืดหยุ่นเพียงพอ การปรับแต่งก็จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

การตั้งค่าข้อมูลราคาย้อนหลัง

ความแม่นยำของการปรับแต่ง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลราคาในอดีต หากข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือคุณภาพต่ำ ผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับแต่งอาจไม่สะท้อนสภาวะตลาดจริง

ขั้นตอนการตั้งค่าข้อมูลราคาย้อนหลังคุณภาพสูง:

1.ดาวน์โหลดข้อมูลตลาดที่ถูกต้อง:

  • เปิด MT5 → ไปที่เมนู View→ เลือก Symbols
  • ดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังของตราสารที่คุณต้องการใช้ในการปรับแต่ง

2.ตรวจสอบให้มีช่วงข้อมูลที่ยาวเพียงพอ:

  • ควรใช้ข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 2–5 ปี เพื่อให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือ
  • ยิ่งช่วงเวลานานเท่าไร EA ก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพตลาดที่หลากหลายได้ดีขึ้น

3.ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและช่องว่างในข้อมูล:

  • ตรวจหาจุดข้อมูลที่ขาดหาย หรือความเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติ
  • หากเป็นไปได้ ควรใช้ข้อมูลแบบ Tick เพื่อจำลองผลการเทรดอย่างแม่นยำที่สุด

สามารถดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังได้จากเมนู Symbols ใน MT5

การเลือกคู่สกุลเงินและกรอบเวลาในการเทรดให้เหมาะสม

ประสิทธิภาพของ EA ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่นำมาเทรด รวมถึงกรอบเวลา ที่ใช้ในการทำงานของ EA นั้นด้วย

การเลือกคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ในการเทรด

  • หาก EA ถูกออกแบบมาสำหรับสินทรัพย์เฉพาะ เช่น EUR/USD, NAS100 หรือทองคำ ควรทำการปรับแต่ง (Optimize) เฉพาะกับสินทรัพย์นั้น
  • หาก EA เป็นกลยุทธ์แบบหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Strategy) ควรทดสอบกับสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อค้นหาตัวที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการปรับแต่ง EA กับคู่เงินแปลกใหม่ (Exotic Pairs) เว้นแต่ EA นั้นจะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับคู่เหล่านี้ เพราะมีสเปรดสูงและสภาพคล่องต่ำ

การเลือกกรอบเวลาในการเทรดให้เหมาะสม

การเลือกช่วงเวลา (Timeframe) ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของ EA นั้นๆ:

สไตล์การเทรด ช่วงเวลาที่แนะนำ
Scalping (เก็บกำไรระยะสั้น) M1, M5, M15
Intraday (เทรดในวันเดียวกัน) M15, M30, H1
Swing Trading (เก็งกำไรจากการแกว่งของราคา) H4, D1
Long-Term (ลงทุนระยะยาว) D1, W1

หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกช่วงเวลาใด ควรเริ่มต้นที่ H1 ก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนภายหลังตามผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบ

การกำหนดค่าพารามิเตอร์เริ่มต้นของ EA

ก่อนเริ่มการปรับแต่ง (Optimisation) จำเป็นต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า จะปรับแต่งพารามิเตอร์ใดของ EA และ จะคงค่าพารามิเตอร์ใดไว้ โดยประเภทของพารามิเตอร์ที่ควรพิจารณาเพื่อการปรับแต่ง ได้แก่:

  • เงื่อนไขการเข้าและออกออร์เดอร์ (Entry & Exit Conditions): ปรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average), ค่าระดับ RSI, การตัดกันของ MACD ฯลฯ เพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้น
  • ระดับ Stop Loss และ Take Profit: ปรับค่า SL/TP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง
  • ขนาดล็อตและการจัดการเงินทุน (Lot Size & Money Management): ทดสอบระหว่างขนาดล็อตคงที่ กับการปรับขนาดล็อตแบบไดนามิกตามความเสี่ยง
  • Trailing Stop และกฎ Break-Even: ปรับปรุงการจัดการความเสี่ยงและการปกป้องกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ

การตั้งค่าช่วงของพารามิเตอร์

การปรับแต่งจำเป็นต้องกำหนดค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และค่าระยะห่าง (Step) สำหรับแต่ละพารามิเตอร์ที่จะนำมาทดสอบ

พารามิเตอร์ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าช่วง (Step)
Take Profit (TP) 20 pips 100 pips 5 pips
Stop Loss (SL) 10 pips 50 pips 5 pips
Lot Size 0.1 1.0 0.1
Moving Average Period 10 100 5

เทรดเดอร์ควรกำหนดช่วงค่าที่มีความเหมาะสม — หากมีค่ามากเกินไปจะทำให้การปรับแต่งช้าลง แต่หากมีค่าน้อยเกินไปอาจทำให้ผลลัพธ์ขาดความแม่นยำ

การใช้เครื่องมือ Strategy Tester ใน MT5 สำหรับการปรับแต่ง

MT5 Strategy Tester เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับการปรับแต่ง Expert Advisors (EAs) ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทดสอบค่าพารามิเตอร์หลายรูปแบบ จำลองสภาวะตลาดจริง และค้นหาการตั้งค่าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้

การใช้งานหน้าต่าง Strategy Tester ใน MT5

วิธีเข้าถึง MT5 Strategy Tester:

  1. เปิดโปรแกรม MT5
  2. ไปที่เมนู View → เลือก Strategy Tester (หรือกดปุ่มลัด Ctrl + R)
  3. หน้าต่าง Strategy Tester จะปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของหน้าจอ

อินเทอร์เฟซของเครื่องมือนี้ประกอบด้วยหลายส่วน ได้แก่:

ส่วน (Section) วัตถุประสงค์ (Purpose)
EA Selection เลือก EA ที่ต้องการนำมาทำการปรับแต่ง (Optimise)
Symbol & Timeframe เลือกคู่สกุลเงินและกรอบเวลา (Timeframe) ที่ต้องการทดสอบ
Model Selection เลือกรูปแบบการจำลองราคาที่ใช้ในการทดสอบ เช่น Tick, OHLC เป็นต้น
Optimisation Mode เลือกรูปแบบการปรับแต่งว่าจะใช้แบบเต็ม (Full) หรืออัลกอริธึมแบบ Genetic
Parameter Settings กำหนดพารามิเตอร์ที่ต้องการปรับแต่ง พร้อมช่วงค่าที่ใช้ทดสอบ
Execution Settings ตั้งค่าจำนวนเงินเริ่มต้น, Leverage และเงื่อนไขของ Spread
Results Tab แสดงผลลัพธ์ของค่าพารามิเตอร์แต่ละชุดหลังจากการปรับแต่ง


ตัวเลือกของ Strategy Tester ใน MT5 (ภาษาอังกฤษ)

ตัวเลือกของ Strategy Tester ใน MT5 (ภาษาจีนตัวเต็ม)

ตัวเลือกของ Strategy Tester ใน MT5 (ภาษาจีนตัวย่อ)

การเลือกโหมดการปรับแต่งที่เหมาะสม

MT5 มีโหมดการปรับแต่ง (Optimisation) หลักอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่:

1.การปรับแต่งแบบช้า (Slow หรือ Full Optimization):
เป็นการทดสอบค่าพารามิเตอร์ทุกชุดที่เป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด แต่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เหมาะสำหรับกรณีที่มีช่วงค่าพารามิเตอร์น้อย หรือเมื่อต้องการความแม่นยำสูงสุด

2.การปรับแต่งแบบรวดเร็วด้วยอัลกอริธึมพันธุกรรม (Fast Genetic Algorithm – GA Optimization):
ใช้เทคนิค Machine Learning เพื่อค้นหาค่าพารามิเตอร์ที่ดีที่สุด โดยให้ความสำคัญกับชุดที่มีประสิทธิภาพสูงและคัดกรองค่าที่ไม่ดีออก ทำงานได้รวดเร็วกว่าการปรับแต่งแบบเต็ม เหมาะสำหรับกรณีที่มีพารามิเตอร์จำนวนมาก

แนะนำ: ให้เริ่มต้นด้วยการใช้ Genetic Algorithm เพื่อค้นหาค่าที่มีแนวโน้มจะดี จากนั้นค่อยใช้ Full Optimization เพื่อปรับแต่งให้แม่นยำยิ่งขึ้น

การกำหนดพารามิเตอร์เริ่มต้นสำหรับการปรับแต่ง

เพื่อปรับแต่ง EA (Expert Advisor) ให้มีประสิทธิภาพ:

1.คลิกที่แท็บ Inputsในหน้าต่าง Strategy Tester
2.ติ๊กเครื่องหมายถูกในช่องของแต่ละพารามิเตอร์ที่คุณต้องการปรับแต่ง
3.กำหนดค่า ขั้นต่ำ (Min), ค่าสูงสุด (Max)และ ช่วงก้าว (Step) สำหรับแต่ละพารามิเตอร์ที่เลือกไว้

การเลือกโมเดลการทดสอบที่เหมาะสมที่สุด

MT5 มีรูปแบบการทดสอบ (Testing Models) ที่หลากหลายสำหรับการปรับแต่ง (Optimisation) โดยการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับความสมดุลระหว่าง ความเร็ว และ ความแม่นยำ ในการทดสอบ

โมเดลการทดสอบ ความเร็ว  ความแม่นยำ  กรณีการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด
Every Tick  ช้า สูง  กลยุทธ์แบบสเกลป์ปิ้ง (Scalping) และกลยุทธ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง
1-Minute OHLC ปานกลาง ปานกลาง  การเทรดแบบสวิง (Swing) และอินทราเดย์ (Intraday)
Open Prices Only เร็ว ต่ำ การทดสอบเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับ EA ที่ใช้เทรดแบบ Scalping แนะนำให้ใช้โหมด “Every Tick” เพื่อความแม่นยำสูงสุดในการจำลองราคา

แต่หากต้องการสมดุลระหว่างความเร็วและความแม่นยำ แนะนำให้ใช้ “1-Minute OHLC”

การปรับค่า Spread, Slippage และเงื่อนไขการเทรด

เพื่อให้การปรับแต่ง (Optimisation) มีความสมจริง ควรตั้งค่าต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับสภาพตลาดจริงมากที่สุด:

1.การตั้งค่า Spread: ขณะทำการปรับแต่ง คุณสามารถเลือกใช้สเปรดแบบคงที่ (Fixed) หรือแบบแปรผัน (Variable) ก็ได้ โดยควรตั้งค่าให้ใกล้เคียงกับสภาพตลาดจริง หรือใช้ค่าปัจจุบันเพื่อจำลองการซื้อขายในตลาดจริง
2.การตั้งค่า Slippage: Slippage คือความล่าช้าในการดำเนินคำสั่ง ควรตั้งค่าให้สมเหตุสมผล เช่น 2–3 pip สำหรับตลาดที่มีความผันผวน
3.เงินฝากเริ่มต้นและ Leverage: ควรกำหนดจำนวนเงินฝากและเลเวอเรจให้สมจริง เช่น ฝากเงิน $10,000 พร้อมเลเวอเรจ 1:100

การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการปรับแต่ง

เมื่อกระบวนการปรับแต่ง ของ Expert Advisor (EA) บน MetaTrader 5 (MT5) เสร็จสิ้น ขั้นตอนถัดไปคือการวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อให้มั่นใจว่าพารามิเตอร์ที่เลือกนั้นให้สมดุลระหว่าง ความสามารถในการทำกำไร, ความเสถียรของกลยุทธ์, และ การควบคุมความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความเข้าใจกับตัวชี้วัดผลการปรับแต่ง

MT5 มีตัวชี้วัดสำคัญหลายรายการในแท็บ Optimization Results ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของ EA ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ

ตัวชี้วัด คำอธิบาย ค่าที่เหมาะสม
Net Profit กำไรรวมหลังหักขาดทุน ยิ่งสูงยิ่งดี แต่ไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียว
Drawdown (%) การลดลงสูงสุดของยอดเงินคงเหลือหรืออิควิตี้ ต่ำกว่า 20% ถือว่าความเสี่ยงต่ำ
Profit Factor (PF) อัตราส่วนของกำไรรวมต่อขาดทุนรวม PF > 1.5 ดี, > 2.0 ยอดเยี่ยม
Win Rate (%) เปอร์เซ็นต์ของออร์เดอร์ที่มีกำไร 40–60% ถือว่ายอมรับได้หากอัตราส่วน R:R สูง
Expected Payoff กำไรเฉลี่ยต่อการเทรด ยิ่งสูงยิ่งดี
Sharpe Ratio ผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยง มากกว่า 0.5 ถือว่าดี, มากกว่า 1.0 ยอดเยี่ยม
Recovery Factor กำไรรวม ÷ การขาดทุนสูงสุด (Drawdown) มากกว่า 3.0 ถือว่าแข็งแกร่ง
Stability Factor วัดความสม่ำเสมอของผลลัพธ์ ยิ่งใกล้ 1.0 ยิ่งดี

การระบุการตั้งค่าที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

หลังจากทำการ Optimization เสร็จสิ้น MT5 จะจัดอันดับค่าการตั้งค่าต่าง ๆ โดยอิงจาก Net Profit เป็นหลักโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม การเลือกค่าที่ทำกำไรสูงสุดโดยไม่วิเคราะห์เพิ่มเติมอาจมีความเสี่ยง ดังนั้นควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:

  • จัดลำดับผลลัพธ์ตาม Profit Factor (PF):ค่าการตั้งค่าที่มี PF สูงมักมีความยั่งยืนมากกว่าค่าที่มีกำไรสูงแต่ PF ต่ำ
  • ตรวจสอบคอลัมน์ Drawdown:หากค่าการตั้งค่าสองชุดมีกำไรใกล้เคียงกัน ให้เลือกค่าที่มี Drawdown ต่ำกว่าเพื่อความปลอดภัย
  • ดูค่า Recovery Factor:ค่านี้บอกว่า EA สามารถฟื้นตัวจากการขาดทุนได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน
  • ตรวจสอบความเรียบของกราฟ Equity Curve:หลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่มีความผันผวนรุนแรง
  • ทดสอบค่าที่เลือกใน Forward Testing:นำไปทดลองบนบัญชีเดโมก่อนเริ่มใช้งานจริงเพื่อประเมินความเสถียรในสภาวะตลาดจริง

การตรวจจับ Overfitting

Overfitting หรือ “การจูนมากเกินไป” เกิดขึ้นเมื่อ EA ถูกปรับแต่งให้เหมาะเจาะกับข้อมูลในอดีตมากเกินไป ทำให้ดูดีเฉพาะในการ Backtest แต่ใช้งานจริงกลับให้ผลลัพธ์ที่แย่

สัญญาณของ Overfitting:

  • Profit Factor สูงผิดปกติ (เช่น PF มากกว่า 5.0)
  • อัตราชนะสูงเกินจริง (มากกว่า 80% ในการ Backtest)
  • กำไรสุทธิเกินจริง
  • ประสิทธิภาพลดลงอย่างรุนแรงเมื่อนำไปทดสอบกับ Timeframe หรือสินทรัพย์อื่น ๆ

วิธีหลีกเลี่ยง Overfitting:

  • ใช้ Walk-Forward Testing: ทดสอบกับข้อมูลที่ EA ไม่เคยเห็นมาก่อน
  • ทดสอบในหลายสภาวะตลาด: แนวโน้มขึ้น, ลง, และ Sideway
  • หลีกเลี่ยงการจูนพารามิเตอร์มากเกินไป: ยิ่งจูนหลายค่ามาก ความเสี่ยงต่อการ Curve Fitting ก็ยิ่งสูง

การวิเคราะห์กราฟ Equity Curve และกราฟประสิทธิภาพ

MT5 มีข้อมูลในรูปแบบกราฟให้ดูในแท็บ Results และ Graph ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถประเมินความเสถียรของ EA ได้อย่างชัดเจนทางภาพ

ลักษณะเส้นกราฟ ความหมาย
เส้นขาขึ้นเรียบเนียน ประสิทธิภาพดีเยี่ยม มีความสม่ำเสมอสูง
ขึ้นช้า มีจังหวะจมเล็กน้อย พอใช้ได้ แต่ควรตรวจสอบระดับ Drawdown เพิ่มเติม
มีพุ่งสูงและร่วงแรงเป็นช่วงๆ มีแนวโน้มว่า EA ถูก Overfit หรือมีความเสี่ยงสูง
เส้นราบหรือเอียงลง ไม่สามารถทำกำไรได้ จำเป็นต้องปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่

การเปรียบเทียบผลการปรับแต่งในแต่ละครั้ง

เพื่อให้ได้การตั้งค่า EA ที่ดีที่สุด เทรดเดอร์ควรเปรียบเทียบผลลัพธ์จากการทดสอบแบบ Optimization หลายรอบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแนวทางดังนี้:

  • ทดสอบในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน: ตรวจสอบว่า EA ทำงานได้ดีในช่วงปีที่ต่างกันหรือไม่ เพื่อประเมินความเสถียรในระยะยาว
  • ทดสอบหลายช่วงเวลา (Timeframes): EA ที่ดีควรสามารถทำงานได้ในช่วงเวลาอย่าง H1, H4 และ D1 ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้น
  • เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ต่างๆ: บางการตั้งค่าอาจทำงานได้ดีกว่าในบัญชี ECN เมื่อเทียบกับบัญชี Standard
  • ตรวจสอบประสิทธิภาพในสินทรัพย์หลายประเภท: หาก EA ถูกออกแบบมาสำหรับ Forex ให้ทดสอบเพิ่มเติมในดัชนีหรือสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อดูความยืดหยุ่น

เมื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำ EA ที่ผ่านการปรับแต่งมาใช้งานจริง พร้อมวางระบบบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพสูงสุด

เทรดกับ Ultima Markets

Ultima Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภท (Multi-Asset) ที่เปิดให้นักลงทุนเข้าถึงตราสาร CFD มากกว่า 250 รายการ ครอบคลุมทั้ง Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี และหุ้น พร้อมรับประกันสเปรดแคบและการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว ปัจจุบัน Ultima Markets ให้บริการลูกค้าจากกว่า 172 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยระบบการซื้อขายที่เสถียรและเชื่อถือได้

ในปี 2024 Ultima Markets ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรางวัล เช่น Best Affiliates Brokerage, Best Fund Safety จากเวที Global Forex Awards และ Best APAC CFD Broker จาก Traders Fair 2024 ณ ฮ่องกง

Ultima Markets ยังเป็นโบรกเกอร์ CFD รายแรกที่เข้าร่วมกับโครงการ United Nations Global Compact ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจการเงินอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน

นอกจากนี้ Ultima Markets ยังเป็นสมาชิกของ The Financial Commission องค์กรอิสระระดับนานาชาติที่ทำหน้าที่ระงับข้อพิพาทในตลาด Forex และ CFD

ลูกค้าทุกบัญชีของ Ultima Markets ได้รับการคุ้มครองภายใต้ประกันภัยจาก Willis Towers Watson (WTW) บริษัทนายหน้าประกันภัยระดับโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1828 โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบัญชี

เปิดบัญชี กับ Ultima Markets วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการซื้อขาย Index CFDs อย่างมั่นใจ

อภิธานศัพท์

เริ่มต้นหรือขยายความรู้ด้านการเทรดของคุณในทุกระดับด้วยคำศัพท์และคำนิยามในอุตสาหกรรมการเงินที่หาที่ไหนไม่ได้

คำศัพท์การเทรดที่บันทึกไว้

  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
  • I
  • J
  • K
  • L
  • M
  • N
  • O
  • P
  • Q
  • R
  • S
  • T
  • U
  • V
  • W
  • X
  • Y
  • Z
  • AMM (ตลาดเงินอัตโนมัติ)

    ระบบกระจายศูนย์ที่ใช้ อัลกอริธึมจัดการสภาพคล่องและการซื้อขาย โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดกลางแบบดั้งเดิม

    บันทึก

  • APR (อัตราดอกเบี้ยต่อปี)

    อัตราดอกเบี้ยรายปีที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายสำหรับเงินที่กู้ยืม หรือได้รับจากการลงทุน (ไม่รวมดอกเบี้ยทบต้น)

    บันทึก

  • APY (ผลตอบแทนต่อปี)

    อัตราผลตอบแทนรายปีที่เทรดเดอร์ได้รับจากการลงทุน (รวมดอกเบี้ยทบต้น) ซึ่งแสดงถึงผลตอบแทนที่แท้จริง

    บันทึก

  • การเข้ารหัสแบบอสมมาตร

    วิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้ กุญแจสองดอก (Public Key และ Private Key) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

    บันทึก

  • Asymmetric Encryption

    The apportionment of premiums and discounts on forward exchange transactions that relate directly to deposit swap (interest arbitrage) deals, over the period of each deal.

    บันทึก

  • การแลกเปลี่ยนอะตอมมิก

    การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบ เพียร์ทูเพียร์ (P2P) โดยตรง โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ลดความเสี่ยงของคู่สัญญา

    บันทึก

  • ดุลการค้า

    มูลค่าของการส่งออกของประเทศลบด้วยมูลค่าการนำเข้า

    บันทึก

  • กราฟแท่ง

    กราฟประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยจุดสำคัญสี่จุด: ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดซึ่งเป็นแท่งแนวตั้ง, ราคาเปิดซึ่งแสดงด้วยเส้นแนวนอนทางซ้ายของแท่ง และราคาปิดซึ่งแสดงด้วยเส้นแนวนอนทางขวาของแท่ง

    บันทึก

  • ระดับแนวต้าน

    ราคาที่มีความสำคัญสูงซึ่งรวมอยู่ในโครงสร้างของ Barrier Option หากราคานี้ถูกแตะ เงื่อนไขของ Barrier Option จะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่กำหนดไว้

    บันทึก

  • ออปชันแบบ Barrier

    โครงสร้างของออปชันที่แตกต่างกัน (เช่น knock-in, knock-out, no touch, double-no-touch-DNT) ที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับราคาที่กำหนด ใน Barrier แบบ no-touch ผู้ซื้อออปชันจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหากราคายังไม่แตะระดับที่กำหนดก่อนหมดอายุ สิ่งนี้กระตุ้นให้ผู้ขายออปชันพยายามผลักดันราคาให้แตะระดับดังกล่าว และทำให้ผู้ซื้อพยายามปกป้องระดับราคานั้น

    บันทึก

  • สกุลเงินหลัก

    สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินหลักมีมูลค่าเท่าใดเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สอง เช่น หากอัตรา USD/CHF เท่ากับ 1.6215 หมายความว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ 1.6215 ฟรังก์สวิส ในตลาดฟอเร็กซ์ ดอลลาร์สหรัฐมักถือเป็นสกุลเงินหลักสำหรับการเสนอราคา ยกเว้นสกุลเงินปอนด์อังกฤษ ยูโร และดอลลาร์ออสเตรเลีย

    บันทึก

  • เคเบิล

    คู่สกุลเงิน GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ) ได้รับชื่อเล่นว่า "เคเบิล" เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเคยถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาผ่านสายเคเบิลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อเงินปอนด์อังกฤษเป็นสกุลเงินหลักของการค้าระหว่างประเทศ

    บันทึก

  • แคด

    ดอลลาร์แคนาดา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Loonie" หรือ "Funds"

    บันทึก

  • ออปชันซื้อ

    การซื้อขายสกุลเงินที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศ โดยการขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เทรดเดอร์จะได้รับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองประเทศตราบใดที่การซื้อขายนี้ยังเปิดอยู่

    บันทึก

  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ Ivey ของแคนาดา

    ตัวชี้วัดรายเดือนที่สะท้อนความเชื่อมั่นทางธุรกิจของแคนาดา จัดทำโดย Richard Ivey Business School

    บันทึก

  • กราฟแท่งเทียน

    กราฟที่แสดงช่วงการซื้อขายของวัน รวมถึงราคาเปิดและราคาปิด หากราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด ส่วนที่อยู่ระหว่างราคาจะถูกแรเงา หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด พื้นที่นั้นของกราฟจะไม่ถูกแรเงา

    บันทึก

  • เดย์เทรดเดอร์

    นักเก็งกำไรที่เปิดสถานะการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และปิดสถานะภายในวันเดียวกันก่อนตลาดปิด

    บันทึก

  • การซื้อขายรายวัน

    การเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายในผลิตภัณฑ์เดียวกันภายในวันเดียว

    บันทึก

  • ดีล

    คำที่ใช้เรียกการซื้อขายที่ดำเนินการในราคาตลาดปัจจุบัน ซึ่งเป็นการซื้อขายจริง ไม่ใช่คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ

    บันทึก

  • ดีลเลอร์

    บุคคลหรือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นคู่สัญญาในการซื้อขาย ดีลเลอร์จะเปิดสถานะซื้อหรือขายเองโดยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างราคาหลังจากปิดสถานะในการซื้อขายครั้งต่อไป ในทางตรงกันข้าม โบรกเกอร์เป็นบุคคลหรือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือคอมมิชชั่น

    บันทึก

  • ส่วนต่างราคาเสนอซื้อและขาย

    ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของสัญญาการซื้อขาย

    บันทึก

  • อีซีบี

    ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร

    บันทึก

  • ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ

    สถิติที่ออกโดยรัฐบาลเพื่อบ่งชี้ถึงการเติบโตและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ อัตราการจ้างงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีก เป็นต้น

    บันทึก

  • คำสั่งซื้อขายสิ้นวัน

    คำสั่งซื้อหรือขายที่กำหนดราคาไว้และยังคงเปิดอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดวันซื้อขาย

    บันทึก

  • เวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐฯ

    เขตเวลาของนครนิวยอร์ก ซึ่งหมายถึงเวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐฯ (Eastern Standard Time) หรือเวลาออมแสงตะวันออก (Eastern Daylight Time)

    บันทึก

  • อีเอสทีเอ็กซ์ 50

    ชื่อเรียกของดัชนี Euronext 50

    บันทึก

  • คำสั่งซื้อจากโรงงาน

    ระดับมูลค่า (ดอลลาร์) ของคำสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าคงทนและไม่คงทน รายงานนี้ให้รายละเอียดมากกว่ารายงานสินค้าคงทนที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน

    บันทึก

  • FED

    ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Bank) หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC - Federal Open Market Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด

    บันทึก

  • เจ้าหน้าที่ FED

    หมายถึงสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือประธานธนาคารกลางสาขาในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ

    บันทึก

  • ตัวเลข

    หมายถึงการเสนอราคาที่ลงท้ายด้วย "00" เช่น 00-03 (1.2600-03) ซึ่งจะอ่านว่า "ฟิกเกอร์-สาม" หากมีการขายที่ 1.2600 เทรดเดอร์อาจกล่าวว่า "ตัวเลขถูกให้" หรือ "ตัวเลขถูกกระทบ"

    บันทึก

  • การคำสั่งซื้อถูกดำเนินเสร็จสมบูรณ์

    เมื่อคำสั่งซื้อขายถูกดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์

    บันทึก

  • G7

    กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา

    บันทึก

  • G8

    กลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 8 ประเทศ ประกอบด้วยสมาชิก G7 และรัสเซีย

    บันทึก

  • ช่องว่างของราคา

    การเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรวดเร็วซึ่งราคาข้ามผ่านหลายระดับราคาโดยไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น ช่องว่างราคามักเกิดขึ้นหลังจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจหรือข่าวสำคัญ

    บันทึก

  • เลเวอเรจ

    การซื้อขายที่มีมูลค่ามากกว่าทุนที่ต้องถืออยู่ในบัญชีซื้อขาย ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์หรือเศษส่วน

    บันทึก

  • Ger30

    ดัชนีของ 30 บริษัทชั้นนำ (ตามมูลค่าตลาด) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า DAX

    บันทึก

  • Handle

    ทุก ๆ 100 pips ในตลาด FX โดยเริ่มต้นที่ 000

    บันทึก

  • Hawk/Hawkish

    นักนโยบายการเงินของประเทศที่เชื่อว่าจำเป็นต้องใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (โดยทั่วไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว หรือทั้งสองอย่าง) จึงเรียกว่า “hawkish”

    บันทึก

  • Hedge

    ตำแหน่งหรือชุดของตำแหน่งที่ช่วยลดความเสี่ยงของตำแหน่งหลักของคุณ

    บันทึก

  • Hit The Bid

    การขายในราคาซื้อ (bid) ปัจจุบันในตลาด

    บันทึก

  • Hk50/Hkhi

    ชื่อที่ใช้เรียกดัชนีฮ่องกง (Hong Kong Hang Seng index)

    บันทึก

  • Illiquid

    มีปริมาณการซื้อขายในตลาดน้อย; การขาดสภาพคล่องมักจะสร้างสภาวะตลาดที่มีความผันผวน 

    บันทึก

  • Imm

    IMM หรือ International Monetary Market เป็นส่วนหนึ่งของ Chicago Mercantile Exchange (CME) ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชันสำหรับสกุลเงินและอัตราดอกเบี้ย

    บันทึก

  • Imm Futures

    สัญญาฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิมที่อิงตามสกุลเงินหลักเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ฟิวเจอร์ส IMM ถูกซื้อขายบนพื้นของ Chicago Mercantile Exchange

    บันทึก

  • Imm Session

    8:00 น. - 15:00 น. ตามเวลา New York

    บันทึก

  • Indu

    คำย่อของ Dow Jones Industrial Average

    บันทึก

  • Japanese Economy Watchers Survey

    วัดความรู้สึกของธุรกิจที่ให้บริการโดยตรงแก่ผู้บริโภค เช่น พนักงานเสิร์ฟ คนขับรถ และช่างทำผม การอ่านค่าที่สูงกว่า 50 โดยทั่วไปสื่อถึงการปรับปรุงทัศนคติ

    บันทึก

  • Japanese Machine Tool Orders

    วัดมูลค่ารวมของคำสั่งซื้อใหม่ที่วางกับผู้ผลิตเครื่องจักร เครื่องมือตัดเย็บนี้เป็นตัวชี้วัดความต้องการของบริษัทที่ผลิตเครื่องจักร ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในอนาคต ข้อมูลที่แข็งแกร่งโดยทั่วไปสื่อถึงการปรับปรุงในภาคการผลิตและเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขยายตัว

    บันทึก

  • Jpn225

    ชื่อสำหรับดัชนี NEKKEI

    บันทึก

  • เก็บกระสุนไว้

    จำกัดการเทรดของคุณเมื่อเผชิญกับสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือช่วงราคาที่แคบมาก อาจเป็นการดีกว่าที่จะรออยู่ข้างสนามจนกว่าจะมีโอกาสที่ชัดเจน

    บันทึก

  • กีวี

    ชื่อเล่นของคู่สกุลเงิน NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)

    บันทึก

  • น็อคอินส์

    กลยุทธ์ออปชันที่ต้องให้ผลิตภัณฑ์อ้างอิงมีการซื้อขายที่ราคาหนึ่งก่อนที่ออปชันที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้จะเริ่มทำงาน น็อคอินส์ถูกใช้เพื่อลดต้นทุนค่าพรีเมียมของออปชันและอาจกระตุ้นกิจกรรมป้องกันความเสี่ยงเมื่อออปชันถูกเปิดใช้งาน

    บันทึก

  • น็อคเอาท์

    ออปชันที่ทำให้สัญญาออปชันที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เป็นโมฆะหากผลิตภัณฑ์อ้างอิงมีการซื้อขายที่ระดับราคาหนึ่ง เมื่อราคาน็อคเอาท์ถูกซื้อขาย ออปชันเดิมจะสิ้นสุดและอาจต้องยกเลิกการป้องกันความเสี่ยงที่ทำไว้

    บันทึก

  • วันซื้อขายสุดท้าย

    วันสุดท้ายที่คุณสามารถทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นได้

    บันทึก

  • เวลาซื้อขายสุดท้าย

    เวลาสุดท้ายที่คุณสามารถทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นได้

    บันทึก

  • ตัวชี้วัดชั้นนำ

    สถิติที่ถูกใช้เพื่อคาดการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต

    บันทึก

  • ระดับราคา

    โซนราคาหรือราคาที่มีความสำคัญจากมุมมองทางเทคนิค หรืออิงจากคำสั่งซื้อ/ความสนใจในออปชันที่มีการรายงาน

    บันทึก

  • เลเวอเรจ

    เรียกอีกอย่างว่ามาร์จิ้น เป็นเปอร์เซ็นต์หรืออัตราส่วนที่ช่วยให้คุณสามารถเทรดได้มากกว่าทุนที่มีอยู่ เช่น เลเวอเรจ 100:1 หมายความว่าคุณสามารถเทรดมูลค่ารวมที่มากกว่าทุนในบัญชีของคุณถึง 100 เท่า

    บันทึก

  • มาโคร

    นักเทรดระยะยาวที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขาย ระยะเวลาการถือครองของการเทรดแบบมาโครอาจอยู่ระหว่าง 6 เดือนถึงหลายปี

    บันทึก

  • การผลิตภาคอุตสาหกรรม

    เป็นตัวชี้วัดปริมาณการผลิตทั้งหมดของภาคการผลิตที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลนี้วัดเฉพาะ 13 หมวดหมู่ย่อยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง ซึ่งภาคการผลิตคิดเป็นประมาณ 80% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด

    บันทึก

  • มาร์เก็ตคอล

    คำร้องขอจากโบรกเกอร์หรือดีลเลอร์ให้ลูกค้าเพิ่มเงินทุนหรือหลักประกันเพิ่มเติมในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามความคาดหมายของลูกค้า

    บันทึก

  • มาร์เก็ตเมกเกอร์

    ดีลเลอร์ที่เสนอราคาซื้อและราคาขายอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะสร้างตลาดสองด้านสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ

    บันทึก

  • มาร์เก็ตออร์เดอร์

    คำสั่งซื้อหรือขายตามราคาปัจจุบันของตลาด

    บันทึก

  • Nas100

    ตัวย่อของดัชนี NASDAQ 100

    บันทึก

  • สถานะสุทธิ

    จำนวนสกุลเงินที่ถูกซื้อหรือขายแต่ยังไม่ได้ถูกชดเชยด้วยธุรกรรมตรงข้าม

    บันทึก

  • เซสชันนิวยอร์ก

    08:00 น. – 17:00 น. (เวลานิวยอร์ก)

    บันทึก

  • โนทัช

    ออปชันที่จ่ายจำนวนเงินคงที่ให้กับผู้ถือหากตลาดไม่แตะระดับ Barrier ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

    บันทึก

  • Nya.X

    สัญลักษณ์ของดัชนี NYSE Composite

    บันทึก

  • เสนอขาย

    ราคาที่ตลาดพร้อมจะขายผลิตภัณฑ์ ราคามักถูกเสนอเป็นสองด้าน คือ Bid/Offer ราคาขาย (Offer) เรียกอีกอย่างว่า Ask ซึ่งแสดงถึงราคาที่เทรดเดอร์สามารถซื้อสกุลเงินหลักได้ โดยสกุลเงินหลักจะแสดงทางซ้ายของคู่สกุลเงินตัวอย่างเช่น ในอัตราแลกเปลี่ยน USD/CHF 1.4527/32 ค่าเงินหลักคือ USD และราคา Ask คือ 1.4532 หมายความว่าคุณสามารถซื้อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ในราคา 1.4532 ฟรังก์สวิส 

    ในการซื้อขาย CFD ราคา Ask คือราคาที่เทรดเดอร์สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้ เช่น ในอัตรา UK OIL 111.13/111.16 ราคาสินค้า UK OIL และราคา Ask คือ £111.16 ต่อหน่วยของตลาดอ้างอิง

    บันทึก

  • ถูกเสนอขาย

    หากตลาดถูกกล่าวว่ากำลังถูกเสนอขาย หมายถึงมีแรงขายสูง หรือมีคำสั่งขายจำนวนมาก

    บันทึก

  • ธุรกรรมชดเชย

    การซื้อขายที่ใช้เพื่อลดหรือยกเลิกความเสี่ยงทางตลาดของสถานะที่เปิดอยู่

    บันทึก

  • ขายทันทีที่ราคาตลาด

    ความพยายามที่จะขายที่ราคาตลาดปัจจุบัน

    บันทึก

  • คำสั่งหนึ่งยกเลิกอีกคำสั่ง

    การตั้งคำสั่งซื้อขายสองคำสั่ง หากคำสั่งหนึ่งถูกดำเนินการ คำสั่งที่เหลือจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

    บันทึก

  • จ่าย

    หมายถึงฝั่งเสนอขาย (Offer) ในการซื้อขายตลาด

    บันทึก

  • คู่สกุลเงิน

    การจับคู่สกุลเงินสองสกุลในการเสนอราคาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

    บันทึก

  • ถูกเทขายหนัก

    การขายออกเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

    บันทึก

  • พาราโบลิก

    ตลาดที่เคลื่อนที่ในระยะทางไกลภายในระยะเวลาสั้น ๆ โดยมักจะเร่งความเร็วขึ้นจนมีลักษณะคล้ายครึ่งหนึ่งของพาราโบลา การเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิกสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

    บันทึก

  • เติมคำสั่งซื้อบางส่วน

    เมื่อคำสั่งซื้อถูกดำเนินการเพียงบางส่วน แต่ยังไม่ครบจำนวนที่กำหนด

    บันทึก

  • มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

    นโยบายที่ธนาคารกลางอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

    บันทึก

  • สัญญา CFD รายไตรมาส

    สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่มีระยะเวลาหมดอายุตามรอบไตรมาส

    บันทึก

  • อัตราเสนอราคา

    ราคาตลาดที่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ซึ่งโดยทั่วไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านข้อมูลเท่านั้น

    บันทึก

  • แรลลี่

    การฟื้นตัวของราคาหลังจากช่วงที่ลดลง

    บันทึก

  • กรอบราคา

    สถานการณ์ที่ราคาซื้อขายอยู่ระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุดที่กำหนดไว้ โดยเคลื่อนไหวภายในขอบเขตนี้โดยไม่ทะลุออกไป

    บันทึก

  • อัตราแลกเปลี่ยน

    ราคาของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง มักใช้เพื่อการซื้อขาย

    บันทึก

  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย

    ธนาคารกลางของประเทศออสเตรเลีย

    บันทึก

  • ธนาคารกลางนิวซีแลนด์

    ธนาคารกลางของประเทศนิวซีแลนด์

    บันทึก

  • ก.ล.ต.

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

    บันทึก

  • ภาคอุตสาหกรรม

    กลุ่มหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน

    บันทึก

  • ขาย

    การเปิดสถานะขาย (Short Position) โดยคาดการณ์ว่าราคาตลาดจะลดลง

    บันทึก

  • การชำระบัญชี

    กระบวนการบันทึกธุรกรรมทางการค้าและกำหนดคู่สัญญาของแต่ละธุรกรรม การชำระบัญชีในการซื้อขายสกุลเงินอาจมีหรือไม่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจริงก็ได้

    บันทึก

  • Shga.X

    สัญลักษณ์ของดัชนี Shanghai A Index

    บันทึก

  • การเข้าซื้อกิจการ

    การเข้าควบคุมบริษัทโดยการซื้อหุ้นของบริษัทนั้น

    บันทึก

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิค

    กระบวนการศึกษากราฟและรูปแบบราคาย้อนหลังเพื่อหาแนวโน้มของการเคลื่อนไหวของราคาต่อไปในอนาคต

    บันทึก

  • นักวิเคราะห์ทางเทคนิค

    เทรดเดอร์ที่ตัดสินใจซื้อขายโดยอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือกราฟราคา

    บันทึก

  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี

    ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีระยะเวลาชำระคืนใน 10 ปี เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี

    บันทึก

  • ตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ

    สภาวะตลาดที่มีปริมาณซื้อขายต่ำ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่แน่นอนและผันผวนสูง

    บันทึก

  • ตลาดที่รุนแรงและไม่เป็นมิตร

    คำอธิบายสภาวะตลาดที่มีความรุนแรงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    บันทึก

  • ค่าจ้างเฉลี่ยในสหราชอาณาจักรรวมโบนัส/ไม่รวมโบนัส

    ตัวชี้วัดค่าจ้างเฉลี่ยของพนักงานที่รวม/ไม่รวมโบนัส โดยวัดการเปลี่ยนแปลงแบบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

    บันทึก

  • อัตราผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหราชอาณาจักร

    ตัวชี้วัดจำนวนผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหราชอาณาจักร ตัวเลขนี้มักต่ำกว่าข้อมูลอัตราการว่างงานทั่วไป เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่ว่างงานมีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการ

    บันทึก

  • ดัชนีราคาบ้านของ HBOS ในสหราชอาณาจักร

    ตัวชี้วัดระดับราคาบ้านในสหราชอาณาจักร เพื่อบ่งชี้แนวโน้มในภาคอสังหาริมทรัพย์และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีนี้เป็นชุดข้อมูลรายเดือนที่ยาวนานที่สุดในบรรดาดัชนีอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักร และเผยแพร่โดยผู้ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร (Halifax Building Society/Bank of Scotland)

    บันทึก

  • การเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหราชอาณาจักร

    ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนที่ผ่านมา

    บันทึก

  • วันที่มูลค่า

    หรือที่เรียกว่าวันครบกำหนด เป็นวันที่คู่สัญญาทางการเงินตกลงที่จะชำระภาระผูกพันของตน เช่น การแลกเปลี่ยนการชำระเงิน สำหรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศแบบสปอต (Spot) วันที่มูลค่ามักเป็น สองวันทำการข้างหน้า

    บันทึก

  • มาร์จิ้นแปรผัน

    เงินทุนที่เทรดเดอร์ต้องถือไว้ในบัญชีเพื่อให้มีมาร์จิ้นเพียงพอสำหรับรองรับความผันผวนของตลาด

    บันทึก

  • ดัชนี VIX หรือ ดัชนีความผันผวน

    แสดงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยคำนวณจากความผันผวนโดยนัยของตัวเลือกดัชนี S&P 500 ที่หลากหลาย VIX เป็นมาตรวัดความเสี่ยงของตลาดที่ได้รับความนิยมและมักถูกเรียกว่า "ดัชนีความกลัวของนักลงทุน"

    บันทึก

  • ความผันผวน

    หมายถึงตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสในการซื้อขายบ่อยครั้ง

    บันทึก

  • รูปแบบกราฟลิ่ม

    รูปแบบกราฟที่แสดงช่วงราคาที่แคบลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยใน ลิ่มขาขึ้น (Ascending Wedge) ราคาสูงสุดมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งมักจบลงด้วยการทะลุแนวรับลง ใน ลิ่มขาลง (Descending Wedge) ราคาต่ำสุดลดลงในอัตราที่ช้าลง ซึ่งมักจบลงด้วยการทะลุแนวต้านขึ้น

    บันทึก

  • วิปซอว์

    ศัพท์สแลงที่ใช้เรียกตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยราคามีการเคลื่อนไหวรุนแรงในทิศทางหนึ่งแล้วกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว

    บันทึก

  • ราคาขายส่ง

    ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำเร็จรูปที่ผู้ค้าปลีกต้องจ่าย ราคาขายส่งมักแสดงแรงกดดันเงินเฟ้อก่อนราคาสินค้าขายปลีก

    บันทึก

  • คำสั่งซื้อขายรอดำเนินการ

    คำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Order) ที่ถูกตั้งไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ

    บันทึก

  • WSJ

    ตัวย่อของ The Wall Street Journal หนังสือพิมพ์การเงินและธุรกิจชั้นนำของโลก

    บันทึก

  • XAG/USD

    สัญลักษณ์ของดัชนีเงิน (Silver Index)

    บันทึก

  • XAU/USD

    สัญลักษณ์ของดัชนีทองคำ (Gold Index)

    บันทึก

  • XAX.X

    สัญลักษณ์ของดัชนี AMEX Composite

    บันทึก

  • YER

    เรียลเยเมน: สกุลเงินของประเทศเยเมน โดยแบ่งย่อยเป็น 100 ฟิล

    บันทึก

  • Yemeni Rial

    ดูที่ YER

    บันทึก

  • Yen

    ดูที่ JPY

    บันทึก

  • Yield

    ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์

    บันทึก

  • Yuan Renminbi

    ดูที่ CNY

    บันทึก

  • ZAR

    แรนด์ (Rand) – สกุลเงินของแอฟริกาใต้ แบ่งย่อยเป็น 100 เซนต์

    บันทึก

  • ZMW

    แซมเบียน ควาชา (Zambian Kwacha) – สกุลเงินของแซมเบีย แบ่งย่อยเป็น 100 Ngwee

    บันทึก

  • ZWL

    ดอลลาร์ซิมบับเว (Zimbabwe Dollar) – สกุลเงินของซิมบับเว แบ่งย่อยเป็น 100 เซนต์

    บันทึก

  • Zambian Kwacha

    ดูที่ ZMW

    บันทึก

  • ZigZag

    ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่วาดจุดสูงสุดและต่ำสุด โดยกรองสัญญาณรบกวนออกไป

    บันทึก

  • Zimbabwe Dollar

    ดูที่ ZWL

    บันทึก

    คำศัพท์การเทรดที่บันทึกไว้

    ยกเลิก

    ยืนยัน